Latest update มิถุนายน 1st, 2023 1:21 PM
ต.ค. 30, 2013 admin ข่าวสินค้าและผลิตภัณฑ์ 0
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 ต.ค.พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล รอง.ผกก.ป.สภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากนางไพสุดา ดำรงชลธี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/5 หมู่ 5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ตถูกแก็งค์ต้มตุ๋นหลอกลวงเงินสดไปกว่า 3 ล้านบาท สอบปากคำทราบว่านางไพสุดาเป็นผู้อำนวยการอยู่ที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพชุมชนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองภูเก็ตและเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูล”เก็บทรัพย์”ทายาทเจ้าของที่ดินในหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตเป็นจำนวนมาก มูลค่านับร้อยล้านบาท ก่อนเกิดเหตุนางไพสุดาได้เล่นเฟสบุคส์กับเจ้าของเฟสบุคส์ที่ใช้ชื่อว่า”Nick Henry”จากนั้นเจ้าของเฟสบุคส์ดังกล่าวอ้างว่าได้ส่งของขวัญมาให้กับนางไพสุดาผ่านบริษัทขนส่งระหว่างประเทศบริษัทหนึ่ง ปลายทาง จ.ภูเก็ต จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมาได้มีบริษัทขนส่งดังกล่าวโทรศัพท์ทางไกลจากประเทศมาเลเซียมายังโทรศัพท์มือถือของนางไพสุดาเพื่อให้โอนเงินเป็นค่าธรรมเนียมในการรับพัสดุจำนวน 58,000 บาท จากนั้นวันที่ 21 ต.ค.ได้มีโทรศัพท์ลึกลับโทรมาจากประเทศมาเลเซีย โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการฟอกเงินระหว่างประเทศ โดยระบุว่าสิ่งของที่อยู่ในซองพัสดุที่มีการจ่าหน้าถึงนางไพสุดาภายในมีเงินปอนด์ที่ผิดกฎหมายถูกซุกซ่อนอยู่กว่า 2 แสนปอนด์ ซึ่งบุคคลที่ส่งพัสดุให้กับนางไพสุดาเป็นกลุ่มขบวนการฟอกเงินระหว่างประเทศ ถ้าไม่อยากให้ติดร่างแหหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจำนวนดังกล่าวให้โอนเงินมาเพื่อแลกกับอิสรภาพจำนวน 3 ล้านบาท ทำให้นางไพสุดาตกใจและกลัวจะตกเป็นผู้ต้องหา จึงตัดสินใจโอนเงินผ่านสถาบันการเงินจำนวน 2 แห่ง ครั้งละ 5 แสนบาทจำนวน 6 ครั้ง เป็นเงิน 3 ล้านบาท โดยปลายทางเป็นชื่อคนไทย ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลประจำประเทศไทย แต่ด้วยความกลัว-อับอายที่เสียรู้และเกรงว่าสามีและครอบครัวจะรู้เรื่องดังกล่าวจึงยังไม่กล้าที่จะเข้าแจ้งความ จนกระทั่งไม่สามารถติดต่อกับนายนิคเจ้าของเฟสบุคส์ดังกล่าวได้ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งต่อตำรวจท่องเที่ยว เนื่องจากคิดว่าคู่กรณีเป็นชาวต่างชาติ แต่ได้รับการช่วยเหลือและประสานจากตำรวจท่องเที่ยวพร้อมกับพาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.วิชิต โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐาน เช่น สลิปใบโอนเงินทั้งหมด เฟสบุคส์บุคคล ตลอดจนข้อความที่มีการแชทระหว่างนางไพสุดากับนายนิคไว้เป็นหลักฐาน เพื่อสืบสวนสอบสวนและติดตามเส้นทางของขบวนการดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนางไพสุดาผู้เสียหายกล่าวทั้งน้ำตานองหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิตว่า ที่ผ่านมาเคยได้ยินเรื่องในลักษณะดังกล่าวจากหน้าเฟสบุคส์มาบ้างเหมือนกัน ซึ่งคิดไม่ถึงว่าจะมาโดนกับตัวเอง สุดท้ายต้องสูญเงินไปกว่า 3 ล้านบาทให้กับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว
พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล รอง.ผกก.ป.สภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ตกล่าวว่าจากการที่ได้พูดคุยกับผู้เสียหาย พบว่าเจ้าตัวเป็นคนที่มีอุปนิสัยใจดี พูดช้าและชอบช่วยเหลือผู้คนต่างๆ ทำให้ง่ายกับการถูกขบวนการต้มตุ๋นและหลอกลวงเป็นอย่างมาก โดยคาดว่าจะต้องมีคนชี้เป้าหมายก่อนที่จะลงมือกับเหยื่อรายนี้ จากการสอบสวนไม่ใช่เป็นการซุ่มหาเหยื่อ แต่เป็นการเจาะจงที่จะพุ่งตรงมาหาเหยื่อ โดยใช้เฟสบุคส์เป็นสื่อกลางในการพูดคุยและทำความรู้กับเหยื่อ จนทำให้เหยื่อตายใจและไว้วางใจและเริ่มปฏิบัติการจนสำเร็จ อย่างไรก็ดีอยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งหมด จึงอยากฝากเตือนไปยังผู้ที่เล่นเฟสบุคส์อย่าหลงเชื่อกับคำอ้างต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมพัสดุจากต่างประเทศ ค่าแลกอิสรภาพกับการตกเป็นสมาชิกกลุ่มฟอกเงินเป็นอันขาด เนื่องจากการโอนเงินในลักษณะเช่นนี้ โดยเฉพาะโอนให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเป็นค่าปิดปากหรือแลกกับอิสภาพพ้นผิดหรือพ้นข้อหาต่างๆไม่มีอย่างแน่นอน เพราะคุณคือ ผู้เสียหาย ไม่ใช่ผู้ต้องหา
ธ.ค. 14, 2022 0
ธ.ค. 13, 2022 0
มิ.ย. 16, 2021 0
ก.พ. 08, 2020 0