โอดี้ NEWS ข่าวส่งเสริมสังคม – อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดงานโอทอปภูมิภาคที่ จ.บุรีรัมย์ ตั้งเป้าปี 58 ยอดขายทั้งประเทศพุ่งกว่าแสนล้าน

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดงานโอทอปภูมิภาคที่ จ.บุรีรัมย์ ตั้งเป้าปี 58 ยอดขายทั้งประเทศพุ่งกว่าแสนล้าน

ก.ค. 30, 2014 admin ห้องข่าว 0

วันนี้ (30 ก.ค. 57) นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานเปิดงาน “OTOP ภูมิภาค” ที่หน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ (หลังเก่า) อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหรือกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโอทอปหรือผลิตภัณฑ์ชุมชนจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้นำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาจัดแสดงและจำหน่าย ให้แก่ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคได้ชม และเลือกซื้อสินค้า เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมช่องทางการตลาดแก่กลุ่มผู้ผลิต ทั้งให้เกิดการหมุนเวียนรายได้ในระบบเศรษฐกิจชุมชน และประชาชนในท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงสินค้าดีมีคุณภาพจากชุมชนเข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศด้วย โดยภายในงานได้มีกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโอทอปจากจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศ ได้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ขึ้นชื่อมาวางจำหน่าย ภายในเต็นท์ติดแอร์มากกว่า 300 ร้านค้า มีทั้งประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ของใช้ของตกแต่ง สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร โดยงานจะมีไปจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2557 ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้มีประชาชนสนใจมาร่วมชมและเลือกซื้อสินค้าภายในงานคึกคัก คาดจะมีเงินสะพัดกว่า 40 ล้านบาท

นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า จุดประสงค์ของการจัดงานโอทอปภูมิภาค นอกจากจะเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายแล้ว ยังเน้นให้เกิดการถ่ายทอดทางนวัตกรรมซึ่งกันและกัน ทั้งการบรรจุหีบห่อ การถนอมอาหารให้มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ทั้งเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และการจำหน่ายสินค้าในช่วงที่มีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 ซึ่งคาดว่าจะมีคนมาเที่ยวในประเทศไทย 50 – 60 ล้านคน จากปัจจุบันมีสถิตินักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศยกว่า 20 ล้านคน ซึ่งหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น ก็จะสร้างรายได้ให้กับกลุ่มผู้ผลิต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ควรจะมีการพัฒนายกระดับให้เป็นที่ต้องการของตลาดและกลุ่มผู้บริโภค ทั้งนี้ตั้งเป้าว่าในปี 2558 จะมียอดจำหน่ายสินค้าโอทอปไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชน ซึ่งเชื่อว่าหากประชาชนมีรายได้เพียงพอก็จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นและเกิดความเข้มแข็งตามไปด้วย