Latest update ธันวาคม 12th, 2025 6:07 AM
ธ.ค. 12, 2025 admin ข่าวภูมิภาค 0





วันที่ 11 ธ.ค. 2568 กรมชลประทานโดย นายปรัชญา ฉายวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวางแผน) กรมชลประทาน เข้าร่วมประชุมปัจฉิมนิเทศสรุปผลการศึกษาแนวทางปรับปรุง และกิจกรรมสื่อสัญจร“โครงการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราชและบางบาล จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา”
โดยจัดให้มีการประชุม 2 เวที คือ เวทีที่ 1 ประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล มี นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วยผู้แทนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล ผู้แทนจากหน่วยงานราชการ และประชาชนกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมอโยธยา อาคาร 1 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากนั้นกิจกรรมสื่อสัญจรไปยังพื้นที่ปากคลองชัยนาท – อยุธยา เพื่อบรรยายสรุปแนวทางการปรับปรุงโครงการฯ และเยี่ยมชมเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท
เวทีที่ 2 จัดประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช มี นายวราดิศร อ่อนนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วยผู้แทนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช ผู้แทนจากหน่วยงานราชการและประชาชนกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมขุนสรรค์พันเรือง ชั้น 5 ศาลากลางสิงห์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
นายปรัชญา ฉายวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวางแผน) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ดำเนินโครงการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช – บางบาล จังหวัดสิงห์บุรี และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทั้งสองโครงการนี้เป็นโครงการย่อยของโครงการเจ้าพระยาใหญ่
โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช เริ่มก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2495 มีแหล่งน้ำต้นทุนของโครงการรับน้ำโดยตรงจากแม่น้ำเจ้าพระยา มีเขื่อนเจ้าพระยาทำหน้าที่ทดน้ำเข้าสู่ปากคลองชัยนาท–อยุธยา ผ่านประตูระบายน้ำมหาราช ส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานกว่า 404,660 ไร่ ครอบคลุม 5 จังหวัด 16 อำเภอ และ 90 ตำบล ส่วนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล ก่อสร้างแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2525
แหล่งน้ำต้นทุนของโครงการมาจากการสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางหลวง และแม่น้ำน้อย เข้าสู่คลองส่งน้ำโดยตรง ส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทาน 130,810 ไร่ ครอบคลุม 2 จังหวัด 6 อำเภอ และ 37 ตำบล
ปัจจุบันทั้ง 2 โครงการฯ มีอายุการใช้งานมายาวนาน ทำให้บางส่วนชำรุดเสียหาย ส่งผลต่อประสิทธิภาพระบบชลประทาน ทั้งการส่งน้ำและการระบายน้ำลดลง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน จากพื้นที่การเกษตร เกิดเป็นชุมชนและอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้รูปแบบการใช้น้ำเปลี่ยนแปลงไป
กรมชลประทานจึงมีแผนการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการฯ เพื่อตรวจประเมินการชำรุด, ความเหมาะสมในการใช้งานของระบบชลประทานเดิม และเสนอแนวทางปรับปรุงโครงสร้าง และการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน โดยการประมวลข้อมูลข้อเสนอแนะจากท้องถิ่น และเกษตรกรผู้ใช้น้ำ มาเป็นแนวทางการพิจารณาปรับปรุงโครงการฯ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถระบบชลประทานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย
ทั้งในพื้นที่โครงการและพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้เกษตรกรมีน้ำใช้เพียงพอและยั่งยืน ทั้งในด้านการเกษตร อุปโภคบริโภค ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
สำหรับแผนงานการปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช ประกอบด้วย 10 แผนงาน
1) แผนงานปรับปรุงประตูระบายน้ำมหาราช
2) แผนงานปรับปรุงดาดคอนกรีตคลองชัยนาท–อยุธยา
3) แผนงานปรับปรุงแก้ปัญหาน้ำต้นทุน ด้วยการเสริมปริมาณน้ำชลประทานให้พื้นที่ปลายคลองส่งน้ำ และเพิ่มการเก็บกักน้ำในพื้นที่
4) แผนปรับปรุงโครงสร้างชลศาสตร์หลัก
5) แผนปรับปรุงระบบส่งน้ำและระบบระบายน้ำ
6) แผนปรับปรุงแก้ปัญหาน้ำท่วม
7) การปรับปรุงด้านการเกษตร
8) แผนการปรับปรุงองค์กรการบริหารจัดการน้ำ
9) การใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการน้ำ
10) แผนการปรับปรุงอาคารและครุภัณฑ์
เมื่อดำเนินการตามแผนงานแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำและการะบายน้ำของพื้นที่โครงการ ช่วยให้การบริหารจัดการน้ำแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่โครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รายได้ภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8,653.29 บาท/ไร่ มีเกษตรกรในพื้นที่ได้รับประโยชน์ 10,451 ราย รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเกษตรกร เพิ่มขึ้น 46,552.97 บาท/ครัวเรือน และ ช่วยบรรเทาความเสียหายเนื่องจากอุทกภัยในเขตพื้นที่โครงการฯ มีประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 132,241 ครัวเรือน
ส่วนแผนงานการปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล ประกอบด้วย 9 แผนงาน
1) แผนการปรับปรุงแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำและการส่งน้ำ
2) แผนงานปรับปรุงระบบส่งน้ำและระบบระบายน้ำ
3) แผนงานปรับปรุงแก้ปัญหาน้ำท่วมและการระบายน้ำ
4) การกำจัดวัชพืชในระบบคลองส่งและคลองระบายน้ำ
5) แผนพัฒนาพื้นที่ลุ่มต่ำบางบาลบ้านแพน
6) แผนการปรับปรุงด้านการเกษตร
7) แผนการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการน้ำ
8) แผนการปรับปรุงองค์กรการบริหารจัดการน้ำ
9) แผนการปรับปรุงอาคารและครุภัณฑ์
ซึ่งเมื่อดำเนินการตามแผนงานแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำและการะบายน้ำของพื้นที่โครงการ ช่วยให้การบริหารจัดการน้ำแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่โครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รายได้ภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7,647.25 บาท/ไร่ มีเกษตรกรในพื้นที่ได้รับประโยชน์ 2,911 ราย รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเกษตรกร เพิ่มขึ้น 43,510.58 บาท/ครัวเรือน และช่วยบรรเทาความเสียหายเนื่องจากอุทกภัยในเขตพื้นที่โครงการฯ มีประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 72,718 ครัวเรือน
ข่าว Lek..Yotita โอดี้ :NEWS รายงาน
ธ.ค. 12, 2025 0
ธ.ค. 11, 2025 0
ธ.ค. 08, 2025 0
ธ.ค. 08, 2025 0
ธ.ค. 03, 2025 0
ธ.ค. 03, 2025 0






