Latest update พฤศจิกายน 1st, 2025 4:02 AM
Latest News
- RUNAWAY หนีไปก็ตายเปล่า จากนิยายขายดี สู่ซีรีส์แซฟฟิก สยองขวัญ เรื่องแรกในไทย เตรียมเปิดฉากความหลอน EP.1 เริ่ม 4 พฤศจิกายนนี้
- ‘เบ้บ ธนทัต’ ทุ่มสุดตัวฝึกรำอย่างหนัก โชว์ฝีมือสะกดทุกสายตาในซีรีส์ “อสงไขย Interminable” เริ่มตอนแรก 7 พฤศจิกายนนี้
- เรวัตฯ นายก อบจ.ภูเก็ต มอบนโยบายขับเคลื่อนการศึกษา พัฒนาศักยภาพครูในสังกัด
- เรวัตฯ นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมรับประทานอาหารเจ ณ อ๊ามราไวย์ สืบสานประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2568
- เรวัตฯ นายก อบจ.ภูเก็ต ประชุมเตรียมการจัดแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ “ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร” ประจำปี 2569
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายวลาดีมีร์ บาราวีคอฟ (Mr. Uladzimir Baravikou) ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเบลารุสประจำประเทศไทย ในการมาดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเบลารุสประจำประเทศไทย นายวลาดีมีร์ บาราวีคอฟ ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเบลารุสประจำสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามด้วย
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายวลาดีมีร์ บาราวีคอฟ (Mr. Uladzimir Baravikou) ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเบลารุสประจำประเทศไทยในการมาดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเบลารุสประจำประเทศไทย นายวลาดีมีร์ บาราวีคอฟ ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเบลารุสประจำสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามด้วย
นายกรัฐมนตรีร่วมประชาสัมพันธ์งานประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 20 รวมการแสดงผลงานนวัตกรรม ประชุมวิชาการระหว่างประเทศ ออกร้านสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน 240 แห่ง 28 มิ.ย.-2 ก.ค. นี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายเปโดร สวาห์เลน (Mr. Pedro Zwahlen) ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย
