Latest update พฤษภาคม 3rd, 2025 11:59 AM
พ.ค. 02, 2025 admin ข่าวประชาสัมพันธ์ 0
“เอมี่-พอร์ช” เผยที่มาความสนิท ไม่ถูกชะตา – เกือบตัดเพื่อน เอมี่ประกาศเงินในบัญชี – โฉนด – สมบัติ ยกให้หลานทั้งหมด
“เอมี่ กลิ่นประทุม” ควงเพื่อนซี้คุณพ่อลูกหนึ่ง “พอร์ช ศรัณย์”มาเปิดเผยจุดเริ่มต้นความสนิท จากที่ไม่ถูกชะตากัน เพราะชื่อเสียงความเจ้าชู้สนั่นวงการ พร้อมเผยเหตุเอมี่ผู้กุมความลับก่อนพอร์ชเปิดตัวลูกชาย “น้องโฮมส์” เปิดใจเหตุการณ์เกือบตัดเพื่อน น้อยใจกันนานเกือบ 2 ปีเต็มๆ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
น้องโฮมส์อายุกี่ขวบแล้ว?
พอร์ช : อีก 2 วันครบ 2 ขวบ โฮมส์เกิด 4 พ.ค.
พัฒนาการไปถึงไหนแล้ว?
พอร์ช : ช่วงนี้เป็นช่วงสร้างตัวตน เหมือนเขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเขาสามารถทำสิ่งนี้ได้ ทำสิ่งนี้ไม่ได้ เขาสามารถปฏิเสธเราได้แล้ว ตอนนี้ให้ทำอะไรก็ปฏิเสธอย่างเดียว กินข้าวมั้ย ไม่ แต่ชวนไปซื้อของเล่น ไป บอกไปกับป๊ามั้ย ไม่ พอป้ามี่บอกไปซื้อของเล่นมั้ย ไปครับ (หัวเราะ) ชอบคนสวย
วัยทอง 2 ขวบ เป็นมั้ย?
พอร์ช : เป็น แต่ผมก็ใช้วิธีให้เข้ามุม เวลาเขาโมโห หรือควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เราจะไม่ดุ แต่จะบอกให้เขาไปสงบสติอารมณ์ตรงนั้น เขาก็ไป เขาไปยืนอยู่เฉยๆ หงุดหงิด พอเขาอารมณ์ดี เขาก็จะบอกว่าขอโทษครับ เราก็เดินไปบอกเขาว่าเมื่อกี้ทำผิดนะ ขอโทษแล้วกอดกัน จบ เข้ามุมเขาจะรู้ว่าเข้ามุมคือการลงโทษ จะไม่มีใครคุยด้วย แต่ตอนหลังรู้มาก ถ้ารู้ว่าทำผิดจะขอโทษก่อนเลย เหมือนเขาปรับตัว เราก็บอกว่าสำนึกจริงหรือเปล่า ไม่ได้ดุ แค่ถาม ให้ยืนไว้ก่อน พอเข้าไปยืนปุ๊บเขาขอโทษเลย เขารู้ทัน ต้องให้เขารู้ว่าอะไรคือผิด อะไรคือถูก
พอร์ชเลือกโรงเรียนให้น้องโฮมส์แล้ว?
พอร์ช : เรียบร้อยแล้วครับ เรียนแถวบ้าน ผมเอาใกล้ๆ บ้านไว้ก่อน ด้วยตัวเราด้วย บางทีเราห่างลูกนาน เราติดลูก เอาใกล้ๆ ดีกว่า มีอะไรจะได้ไปเลย บ้านห่างจากโรงเรียน 5 นาที รับส่งเอง มิ.ย.นี้เข้าเรียนแล้วเป็นเนิร์สเซอรี่
เอมี่เจอหลานบ่อยมั้ย?
เอมี่ : ไม่ได้เจอบ่อย แต่วิดีโอคอลบ่อย กลัวเขาจำเราไม่ได้ ก็เลยคอยโทรวิดีโอคอล
พอร์ช : เราก็บอกว่าคิดถึงก็มาหาสิ จะโทรหาทำไม เขายุ่ง งานเขาเยอะ
ป้ามี่เจอหลาน กี่ครั้ง?
พอร์ช : ไม่นับมาเจอตามงาน หาที่บ้าน 2 ครั้ง (หัวเราะ)
เอมี่ : หลานคนอื่นโต 10 ขวบยังไม่เจอเลยนะ (หัวเราะ) พอเราพูดจะไปๆ พอมันผ่านไปเราไม่ได้คิดว่ามันนานขนาดนั้น แต่พอพูดว่า 2 ปีไปแค่ 2 ครั้ง มันดูนานว่ะ (หัวเราะ) มันหลายอย่าง ช่วงนี้ถ่ายรายการไปต่างจังหวัดค่อนข้างเยอะ เราไม่ค่อยได้อยู่
สนิทกันกี่ปีแล้ว?
พอร์ช : เป็นสิบปีแล้ว
เริ่มต้นรู้จักกันได้ยังไง?
เอมี่ : จริงๆ เจอพอร์ชสมัยที่อยู่ช่อง 7 ด้วยกัน แต่เราไม่เคยได้ร่วมงานกัน ช่อง 7 เราไม่ได้คุยกัน เจอหน้าครั้งแรกไม่ชอบด้วย (หัวเราะ) เพราะเขาจะนิ่งๆ หยิ่งๆ หน่อย แต่แค่นางไม่เห็นเราเฉยๆ แต่พอเราไปเจออีกครั้ง นางก็สวัสดีโน่นนั่นนี่ ไม่เชิงเชิ่ดแต่ไม่สนใจ
พอร์ช : ประเด็นคือเราไม่เคยร่วมงานกันไง บางทีเราไม่ทักใครก่อน เราเป็นคนธรรมดา เขาเป็นนางเอกดัง จะคุยกับเรามั้ย
เอมี่ : แต่ที่มาสนิทมาเจอกันก็เพราะพี่เป็กแหละ พอร์ชก็น้องพี่เป็ก
กินน้ำละลายพฤติกรรมก็สนิทกัน?
เอมี่ : ใช่ เจอบ้านพี่เป็ก
ก่อนซี้ ได้ยินชื่อเสียงผู้ชายคนนี้ยังไง?
เอมี่ : เขาเป็นรุ่นน้องเราด้วย เราได้ยินเรื่องเจ้าชู้ แต่เราเป็นรุ่นพี่ ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร แต่เราก็ได้ยินกิตติศัพท์มาเยอะ พอเจอก็ตามนั้นแหละ (หัวเราะ) นางก็เป็นแนวเฮฮาๆ ซะมากกวา พอร์ชเป็นคนอารมณ์ดี เล่นมุก เวลากินอะไรด้วยกัน เราก็ชอบเล่นเกมกัน ต้องแบ่งทีม แล้วต้องอยู่ด้วยกันและต้องชนะ
มี่ชอบแอบซีไปดื่มบ้านพอร์ช?
พอร์ช : เรียกว่าเป็นทางผ่านแล้วกัน
เอมี่ : บอกเขา แต่กลับช้า
กลัวช้าหรือกลับเช้า?
เอมี่ : รวมๆ กัน คือเมื่อก่อนเพื่อนสนิทมี่อีกคนเขาจะอยู่หมู่บ้านเดียวกันพอร์ช จะมีช่างผมที่สนิทกันด้วย ละแวกบ้านเราอยู่ใกล้กันหมด จะกลับจากไหนก็เป็นทางผ่านจริงๆ เราก็แวะได้ ทีนี้เวลาแวะมันก็ล่วงเลยเวลา แต่พี่ซีก็รู้แหละ เขารู้แต่อาจรู้ไม่หมด (หัวเราะ) รู้ว่าไม่อยู่บ้านเพื่อนคนนี้ก็อยู่บ้านพอร์ช แค่นี้ เพราะอยู่ใกล้สุด
มีหึงหวงมั้ย?
เอมี่ : กับพอร์ชไม่มี พี่ซีก็สนิทกับพอร์ชเหมือนกัน น้องรักพี่ซี
บอกพี่ซีไม่ได้เหรอ?
พอร์ช : ไม่ได้หึงหวง พี่ซีเขาก็ไม่อยากให้เมียกินเหล้าเยอะ กลับบ้านดึกจนเกินไป อีกวันต้องมีงาน
เอมี่ : นั่นสมัยก่อน สมัยนี้ก็ดื่มแหละ แต่ไม่ได้ดื่มเยอะเหมือนเมื่อก่อน
บ็อกเซอร์ติดไปกับเอมี่คืออะไร?
เอมี่ : บ็อกเซอร์พอร์ชมันเหมือนกางเกงวอร์มเรา มันยาว บางทีเรากลับจากงานเราใส่ชุดอะไรก็ไม่สะดวกในการนั่ง ก็ใส่บ็อกเซอร์นางกับเสื้อยืด เราก็กลับบ้านแบบนั้น
พอร์ช : อีกวันพี่ซีเอาไปใส่ (หัวเราะ)
เอมี่ : พอร์ชก็โทรมาบอกพี่ซีๆ นั่นบ็อกเซอร์ผม อ้าว กูจะไปรู้เหรอ (หัวเราะ) เขาก็ไม่รู้ว่าของใคร บางทีของเขตอยู่ที่บ้านก็มี นางก็รู้ว่าเป็นของใครสักคน นางก็บอกว่างั้นยืมนะ แล้วนางก็ไม่คืน ก็สนิทกันแบบนี้ บางทีมีเสื้อแจ็คเก็ตใส่ไปงาน ก็ยืมเสื้อน้องมาเลยแล้วกัน
พอร์ชสนิทกับซีได้ไง?
พอร์ช : จริงๆ ผมก็บาลานซ์ทั้งคู่ กับพี่ซีผมจะเล่นเกมด้วย มีช่วงก่อนเล่นเกมกันเยอะ ถ้าจะปาร์ตี้ต้องมาหาเอมี่ ผัวติดเกม เมียติดเหล้า
เอมี่ : (หัวเราะถูกใจ)
พอร์ช : เราต้องบาลานซ์เพื่อนให้ดี
เอมี่ : เขาจะชอบร้องเพลงด้วยกัน พอร์ชร้องเพลงเก่ง พี่ซีชอบปรึกษา ปรึกษาไปๆ มาๆ มี่ขึ้นนอนก่อน ลงมายังปรึกษาเรื่องเพลงกันอยู่เลย เขาก็ได้ทั้งสองทาง ทั้งมี่ทั้งพี่ซี พี่ซีก็ชอบร้องเพลงกับพอร์ช
สาวๆ ทุกคนของพอร์ช เอมี่เห็นมาตลอด?
เอมี่ : ก็เห็นบ้าง แต่ตามสไตล์ เรารู้จักเขามานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น เกเร บางทีมาอาจเป็นแนวเพื่อนก็ได้ เราก็ไม่เคยถาม
พอร์ชมีปัญหาไม่ค่อยปรึกษาคนอื่น แต่ปรึกษาเอมี่?
พอร์ช : กับมี่ก็ไม่ค่อยได้ปรึกษา ถ้าปรึกษาเรื่องซีเรียส ส่วนใหญ่จะปรึกษาพี่ซี เพราะพี่ซีเขาชอบคุยเรื่องซีเรียสอยู่แล้ว เขามีสติ กับมี่เวลาไปไหนด้วยกันเราไม่เอาเรื่องเครียดมาปน เราสนุกอย่างเดียว
เอมี่ : ถ้าพอร์ชปรึกษาเรื่องการงาน ทำงานก็จะคุยกับพี่ซี จะได้สาระมากกว่า ถ้าเขามีปัญหาก็ดูออกว่ามีอะไรในใจ เราก็ไม่ถาม เขาก็ไม่พูด ถ้าเขาจะพูดเขาจะพูดเอง ถ้าถามจะยิ่งไม่พูดใหญ่เลย ถ้าเขาอยากพูดเขาจะมาเอง เขาต้องสบายใจกับเรา เวลาเขามีอะไร ก็มีบ้างที่มาคุยด้วย แต่น้อย
พอร์ช : ฟีลพี่ซีอยู่บ้านมั้ย พรุ่งนี้จะไปหาที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้คุยอะไร บางทีไปนั่งเฉยๆ
ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจจะหายไปเลย?
เอมี่ : ก็ไม่ได้หายไป แต่ถ้าเรานั่งกับกลุ่มเพื่อนแล้วเขาต้องกลับก่อน หรือเขามีเรื่องเครียด เขาจะเลือกที่จะกลับเลย ไม่บอกใครทั้งนั้น เราก็อ้าว อีพอร์ชอยู่ไหน แต่เราก็ไม่ตาม นางกลัวถ้าบอกคนอื่นเดี๋ยวคนอื่นรั้งนาง เราก็บอกว่าบอกนิดนึง เพราะบางทีหาว่าอยู่ไหน แค่บอกเฉยๆ ไม่รั้ง แต่หลังๆ เริ่มบอก เราก็ไม่บอกใคร คนเราถ้าอยากกลับก็กลับ ไม่สบายใจที่จะอยู่ เหนื่อย หรือมีธุระ ก็กลับ แต่รู้ว่ามีปัญหาอะไรสักอย่าง ก็กลับเถอะ รั้งไว้ก็ไม่สนุกแน่
เรื่องน้องโฮมส์ ทำไมพอร์ชเลือกบอกเอมี่คนแรก?
พอร์ช : เวลาคุยกับมี่เราไม่อยากให้มีเรื่องเครียด เราคุยแต่เรื่องดีๆ เราแค่รู้สึกว่าพอเรามีลูกก็เป็นเรื่องที่ดี แค่อยากบอกเพื่อนแค่นั้นเอง แค่อยู่ดีๆ ก็วิดีโอคอลบอกเลย มันนั่งกินเหล้าอยู่
เอมี่ : วิดีโอคอลแล้วบอกว่า มีอะไรอยากให้ดู แล้วแพนกล้อง เราถามว่าลูกใครวะ เขาบอกลูกกู (หัวเราะ) เราก็จริงเปล่าเนี่ยเป็นช่วงนางไม่ได้บอกใคร มี่ก็โอเค แม้แต่พี่ซีก็ไม่ได้บอก เรารู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่ควรบอกเอง
เก็บความลับเก่งมาก?
เอมี่ : มี่แค่ไม่พูดเฉยๆ
เป็นตราบาป พอรู้ความลับเพื่อนไม่สามารถเล่าใครได้?
เอมี่ : ก็อยากพูด เหมือนเราอยากจะบอก บางทีก็อยากไปหา แล้วช่วงหลังๆ พี่ซีก็อยู่บ้านตลอด เราก็คิดว่าหรือเราจะบอกเลย แต่ไม่รู้ควรจะบอกหรือไม่บอก สุดท้ายนางก็บอกพี่ซีเอง อยากให้พี่ซีได้โมเมนต์ดีใจกับพอร์ช เขาอึดอัด อยากพูด เห่อหลาน พอพอร์ชบอกซีก็ไม่เหมือนมี่บอก ก็อยากให้เขาได้โมเมนต์นั้น
พอบอกว่ามีลูก พี่ซีทำยังไง?
พอร์ช : พี่ซีไม่ตกใจอะไร เขาบอกเหมือนกูก็รู้อยู่แล้วแหละ แต่เมียกูไม่ได้บอกกูนะเว้ย ไม่รู้รู้จากไหน แต่ผมไม่ได้ปิดเรื่องนี้ แค่ที่มาบอกมี่เพราะอยากบอกเพื่อนแค่นั้นเอง
เอมี่บอกซีเรื่องหลานไม่ได้เหรอ?
เอมี่ : เราไม่อยากขโมยโมเมนต์ไปที่นางจะมีการบอกกัน อยากให้เขารู้จากพอร์ช การที่มี่มาบอกเหมือนเรามาเม้าธ์เรื่องเพื่อนให้ฟัง พอร์ชก็เป็นน้องซีด้วย ก็อยากให้บอกกันเอง
ช่วงห่างกันไป งอนๆ อะไรกัน?
พอร์ช : ไม่ได้งอนอไรมากหรอก เราไม่ค่อยได้ดื่มด้วย เราคิดกับตัวเองแทน ว่าที่เพื่อนไม่ได้มาเจอเรา เพราะเราไม่ได้ไปดื่มเหมือนเมื่อก่อน เราไม่ได้ปาร์ตี้เพื่อนจะมาเจอเราทำไม
คิดว่าเขางอนมั้ย?
เอมี่ : งอน ตอนยังไม่ไปเยี่ยมหลาน นางตามว่ามาเยี่ยมสิ เราก็บอกว่าโอเค เดี๋ยวไป แต่ช่วงนั้นเราเป็นโควิด แล้วเป็นลองโควิด เราไม่รู้ว่าเราหายดีหรือยัง ก็ยังไม่ไปซะที นางเป็นคนไม่เคยงอนจริงจัง ไม่เคยโกรธเลยนะ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่คุยกับมี่เลย เราก็ตายแล้ว มันโกรธจริงๆ จนมันหายโกรธ เอาหลานมาหาที่บ้านเองเลย
พอร์ช : แค่อยากให้เจอ เพราะบอกเขาคนแรก แค่นั้นเอง
เอมี่ : เขาบอกว่านี่คนแรกที่บอก แล้วยังจะไม่มาอีก เป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิต แล้วทำไมถึงไม่สนใจมัน ก็รู้สึกผิดมาก ไม่มีอะไรจะพูด จุกๆ
งอนเองหายเอง?
พอร์ช : ก็พยายามเข้าใจ ช่วงนั้นเราหลายอย่าง เราเลี้ยงลูกด้วยก็เครียด ลูก 6-7 เดือน ตอนบอกมี่ลูก 4-5 เดือน
เลี้ยงลูกคนเดียวเก่งมาก พอร์ชตั้งแต่มีลูกเปลี่ยนไปมั้ย?
เอมี่ : เปลี่ยนไปเยอะมาก ไม่คิดว่าจะเห็นพอร์ชแบบนี้ เวอร์ชั่นทั้งหมดในแก๊งเรา พอร์ชเป็นคนที่เราห่วงสุด เละเทะ พอมันบอกมีลูกก็คิดว่าคงดีขึ้นแหละ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ พอเขาบอกเราก็ไม่น่าเชื่อ เวลามันพูดว่าจะทำอะไรหรือเปลี่ยนอะไร ก็ไม่ได้เปลี่ยนขนาดนั้นหรอก แต่อันนี้เปลี่ยนจริงๆ เลี้ยงเองจริงๆ แล้วเลี้ยงดีด้วย เราไม่คิดว่าเขาจะเสียสละตัวเองที่เคยเป็นมา เขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ มีความรับผิดชอบ ทำตามที่พูด ปกติไม่เคยทำตามที่พูด (หัวเราะ) อยากมาหาหลานต้องเท่านี้นะ ถ้าอยากมีดื่มด้วยก็ต้องเท่านี้ พอเราไปหา เราบอกให้กลับนางก็กลับ คนต่อเวลาคือพี่ซี พอหลานมาอยู่ด้วย เราจะรู้ว่าถ้าคนไม่ได้เลี้ยงเองเขาจะหาพี่เลี้ยง แต่นี่ลูกติดพ่อ ติดพอร์ชจริงๆ
มีลูกแล้วไม่ดื่มมา 2 ปีแล้ว?
พอร์ช : จริงๆ มีบ้าง แต่ถ้านับตั้งแต่มีลูก ดื่มจริงๆ ไม่เกิน 5 ครั้ง ลูกนอนทุ่มนึง ถ้ามีเพื่อนมาหาก็เต็มที่ เที่ยงคืนตีหนึ่ง แต่ถ้าไม่มีเพื่อนมาก็นอนสามทุ่ม เพราะตื่นตีห้า ลูกตื่นตีห้าครึ่ง ต้องลงมาข้างล่าง ทำกับข้าว ลูกกินข้าวไม่เกิน 8 โมง
เอมี่ : นางเลี้ยงเองจริงๆ นะ เวลาชวนมางานนี้มั้ย นางไม่อยากฝากลูกกับคนอื่น นางเป๊ะกับลูก
เลี้ยงเองโดยไม่มีพี่เลี้ยง มันเหนื่อยมากเลยนะ ชีวิตหายไปเลย ดูแลตัวเองยังไง?
พอร์ช : จริงๆ แล้วเริ่มจากผมลดเรื่องแอลกอฮอล์ไปเยอะ เรื่องการพักผ่อนสำคัญมาก ทำทุกอย่างเป็นรูทีน ลูกนอนทุ่มนึง พอร์ชนอน 3 ทุ่ม ลูกตื่นตีห้าครึ่ง พอร์ชก็ตื่นตีห้าครึ่ง
สมบัติทั้งหมดที่เอมี่มี ทั้งเงินในบัญชี โฉนดในบัญชี จะเป็นของใคร?
เอมี่ : เป็นของหลาน เราเคยพูดว่าเราไม่อยากมีลูก เราไม่อยากมีห่วง เราใช้เงินได้อย่างไม่ต้องคิด แต่พอมีหลานก็เหมือนมีอยู่ดี เราทำอะไรเราก็คิดถึง เราก็จะเก็บเงินให้ ที่เราเคยคิดว่าเราสปอยลูกเพื่อน มันไม่เหมือนหลานตัวเอง มันหนักมาก
ทำห้องให้หลานเกือบล้าน วอลเปเปอร์สั่งจากลอนดอน?
เอมี่ : มันสนองนี้ดส์ตัวเองมากกว่า อยากจัดห้องให้เบบี๋เราไม่มีวันมีเบบี๋ ห้องแขกห้องนึงที่บ้านก็จัดไว้เลยแล้วกัน หลานมานอนที่บ้านตอนไหนก็มาได้ จัดที่บ้านตัวเอง (หัวเราะ)
ไม่รับละครเพื่อรอเลี้ยงหลาน?
เอมี่ : ไม่ใช่ไม่รับเลยนะ มันเป็นจังหวะที่ละครติดต่อมาแล้วเราอยากเล่นจริงๆ แต่เป็นช่วงที่เราทำธุรกิจด้วย ทำโน่นทำนี่ หลานเพิ่งคลอด ถ้าถ่ายมันกินเวลา ขนาดไม่ได้ถ่ายแบบไม่มีเวลาเลย เดี๋ยวจะไม่ได้อยู่ช่วงนางกำลังน่ารัก เขาเลี้ยงกันเองด้วย เราก็อยากอยู่ทุกโมเมนต์ ไม่อยากหายไป ตอนนี้มันจำเสียงฉันได้ ตอนท้องอีนี่พูดๆๆ อยู่คนเดียว ไม่รู้คิดเองหรือเปล่า แต่ทุกครั้งที่มี่พูดนางก็จะหันมาฟัง
หลงหลานขนาดนี้ มีแพลนเปลี่ยนใจอยากมีของตัวเองมั้ย?
เอมี่ : มีแว็บแรก เรารู้สึกว่าหน้าเหมือนเราเลย เป็นความรู้สึกที่แบบ เป็นงี้นี่เอง ถ้ามีของตัวเองคงดีแหละ ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่ด้วยเวลาที่ล่วงเลยมานานแล้ว มันเครียดเกินไป พอหลานเป็นอะไร ร้องไห้ต้องไปรพ. มันเครียดมาก มี่ก็จะนอยด์ ถ้าเราไม่สบายนิดนึงก็ไม่อยากไปหาแล้ว บางทีเป็นภูมิแพ้ก็ไม่อยากอยู่ใกล้ มันห่วงไปหมดจะติดเชื้อโรคจากเราหรือเปล่า นอยด์คิดมากเรื่องสุขภาพ ด้วยปัจจุบันนี้มีอะไรไม่รู้เต็มไปหมด
ถ้าเป็นแม่ พอร์ชมองมี่เป็นแม่ยังไง?
เอมี่ : คงไม่ให้ใครมาเยี่ยม
พอร์ช : น่าจะแพนิกแน่เลย ผมว่าเขานิสัยเหมือนผม บางทีเราคิดถึงเรื่องลูกมากเกินไป จนทำให้แพนิกไปหมด เครียดแทนลูกเกินไป จนไม่มีเวลารีแลกซ์ตัวเอง
เอมี่ : คงไม่อยากให้ไปโรงเรียน กลัวเจออะไรสักอย่าง
เป็นห่วงอะไรกัน อยากบอกอะไร?
เอมี่ : กับพอร์ชพูดกันได้ตลอด เมื่อก่อนเราเป็นห่วง แต่ตอนนี้มันน่าเป็นห่วงมี่มากกว่า (หัวเราะ) รู้สึกภูมิใจที่เป็นแบบนี้ ภูมิใจและดีใจที่นางเจอจุดมุ่งหมายในชีวิต ทำอะไรก็นึกถึงลูกตลอด เราก็ดีใจด้วย
พอร์ช : ไม่ต้องคิดมาก ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอนขนาดนั้น เราแค่รู้สึกว่าเวลามีเรื่องดีๆ เราแค่อยากบอกเพื่อน บางทีเลี้ยงลูกเราก็เหงาบ้าง บางทีได้เจอเพื่อน มาหาบ้างก็ได้ ไม่กินเหล้าก็มานั่งได้นะ บางทีเพื่อนมาหาที่บ้าน ผมไม่ดื่มคนเดียว เพื่อนนั่งกินไปสิ ผมก็อยู่ได้
Lek..Yotita
โอดี้NEWS รายงาน
พ.ค. 02, 2025 0
พ.ค. 02, 2025 0