Latest update กรกฎาคม 18th, 2025 8:54 AM
ก.ค. 18, 2025 admin ข่าวประชาสัมพันธ์ 0
เพื่อรำลึกถึง 120 ปีชาตกาล ‘ศรีบูรพา’ หรือ กุหลาบ สายประดิษฐ์ (พ.ศ. 2448-2517) นักคิด นักเขียน และนักสู้ผู้ฝากมรดกทางปัญญาไว้ให้แก่วงการน้ำหมึกและสังคมไทย แบรนด์สิ่งทอชั้นนำของไทยอย่าง “PASAYA” ร่วมกับ “กองทุนศรีบูรพา” จัดงานเสวนา “120 ปี ศรีบูรพา Young Today” ณ PASAYA Flagship Store ชั้น 3 สยามพารากอน พร้อมเปิดตัว “กระเป๋าศรีบูรพา” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานและจิตวิญญาณของศรีบูรพา ภายใต้แนวคิด “ผืนผ้าที่บอกเล่าเรื่องใจ” คัดเลือกวลีอมตะจากบทประพันธ์ของศรีบูรพานำมาถักทอลงบนเนื้อผ้าอย่างประณีต
บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น ท่ามกลางนักคิด นักเขียน และสื่อมวลชนมากมาย ที่มาร่วมฟังเสวนาจากวิทยากรผู้ทรงความรู้จากหลายสาขา ได้แก่ ชมัยภร แสงกระจ่าง, วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์, โตมร ศุขปรีชา, กษิดิศ อนันทนาธร, และจรูญพร ปรปักษ์ประลัย พร้อมลำนำบทกวี ‘รำลึกศรีบูรพา’ โดย คุณอาชญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ และคุณอัศวุธ อุปติ กรรมการกองทุนศรีบูรพา วิทยากรแต่ละท่านได้เชื่อมโยงชีวิตและผลงานของศรีบูรพา ทั้งในฐานะนักเขียนและในฐานะปัจเจกบุคคลเข้ากับบริบทของสังคมปัจจุบันได้อย่างลึกซึ้ง สะท้อนถึงตัวตนของศรีบูรพาที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ ความกล้าหาญ เปี่ยมด้วยความรักในเพื่อนมนุษย์ และความปรารถนาที่จะเห็นสังคมที่ดีขึ้น วรรณกรรมของท่านเป็นกระจกสะท้อนสังคม ตลอดจนเครื่องมือในการจุดประกายความคิดแก่ผู้อ่าน ให้ลุกขึ้นมาตั้งคำถามและกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ผ่านเสียงสะท้อนทางความคิดดังนี้
ชมัยภร บางคมบาง (แสงกระจ่าง): ศรีบูรพาเขียนถึง ‘ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์’ ผ่านความรัก
ในฐานะศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2557 ชมัยภรเริ่มต้นด้วยมุมมองที่ลุ่มลึกและเข้าถึงแก่นของความเป็นมนุษย์ในงานเขียนของศรีบูรพา ความอ่อนโยนและเมตตาที่สะท้อนผ่านตัวละครในนวนิยายเรื่อง “ข้างหลังภาพ” จากตัวละครอย่าง ‘นพพร’ ชายหนุ่มผู้มีความรู้สึกนึกคิดที่ซับซ้อน และ ‘ม.ร.ว. กีรติ’ ที่เต็มไปด้วยความเมตตาและความเข้าใจในธรรมชาติของความรัก
“ศรีบูรพาแสดงให้เห็นว่าความรักที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องครอบครอง แต่เป็นการเข้าใจและยินดีในความสุขของอีกฝ่าย แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือ ศรีบูรพาไม่ได้เขียนแค่เรื่องรัก หากแต่เขียนถึง ‘ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์’ ผ่านมุมมองของความรัก คุณหญิงกีรติเลือกที่จะเก็บงำความรู้สึกไว้ ไม่ใช่เพียงเพราะจารีต แต่เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตนเองและของคนที่เธอรัก ตัวละครของท่านมีชีวิตที่เลือกได้ แม้ในกรอบของสังคมที่จำกัด และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผลงานของท่านมีความเป็นสากล” วรรคทองนี้ชวนให้มองถึงเรื่องราวความรักต่างวัย สู่การเคารพในการตัดสินใจและเกียรติของปัจเจกบุคคล ซึ่งเป็นแนวคิดที่ยังคงท้าทายสังคมไทยมาจนถึงปัจจุบัน
วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์: ศรีบูรพาคือ ‘นักสู้ทางความคิด’ ที่ใช้ปากกาเป็นอาวุธ
ในฐานะผู้อำนวยการ Thai PBS ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการสารคดี โทรทัศน์ รวมถึงนักเขียนเจ้าของรางวัลศรีบูรพาคนที่ 23 (พ.ศ. 2554) ผู้มีศรีบูรพาเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน วันชัย ยอมรับว่า งานเขียนของศรีบูรพานำพาให้เราท่องโลกกว้างผ่านตัวอักษร เขาเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีของนักหนังสือพิมพ์ในทุกยุคสมัย
“เรามักจดจำศรีบูรพาในฐานะนักเขียน แต่เบื้องหลังความอ่อนโยนของภาษา ท่านคือ ‘นักสู้ทางความคิด’ ที่มีปากกาเป็นอาวุธต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคม ชีวิตของท่านตั้งแต่เป็นนักหนังสือพิมพ์ นักเขียน นักกิจกรรมทางสังคม จนถึงการถูกจองจำในคุกถึงสองครั้งคือบทพิสูจน์ว่า อุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ต้องแลกมาด้วยการเสียสละอันใหญ่ยิ่งเช่นเดียวกัน” ถ้อยคำนี้ฉาบฉายให้เห็นถึง ‘ราคา’ ที่ศรีบูรพาต้องจ่าย เพื่อแลกกับการยืนหยัดในสิ่งที่ตนเชื่อและทำให้ตระหนักว่า เสรีภาพที่เราได้รับในวันนี้ มีหยาดเหงื่อและน้ำตาของนักต่อสู้อย่างท่านเป็นส่วนหนึ่งของมัน
โตมร ศุขปรีชา: “คำว่า ‘แลไปข้างหน้า’ คือการตั้งคำถามกับปัจจุบันอย่างกล้าหาญ”
นักคิดและนักเขียนผู้เฉียบคม ได้เชื่อมโยงอุดมการณ์ของศรีบูรพาเข้ากับโลกยุคใหม่อย่างน่าทึ่ง โตมรเน้นย้ำถึงความกล้าหาญและจุดยืนทางการเมืองของศรีบูรพา ที่สะท้อนให้เห็นว่า ศรีบูรพาเป็นทั้งนักเขียนและนักต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและประชาธิปไตย “ศรีบูรพาใช้ชีวิตตามที่เขาเชื่อมั่น ดังที่เขียนไว้ในวรรณกรรม นั่นทำให้งานเขียนของศรีบูรพามีพลังอย่างมาก” คำกล่าวนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสอดคล้องระหว่างชีวิตจริงและอุดมการณ์อันแน่วแน่ของศรีบูรพา
“นวนิยาย ‘แลไปข้างหน้า’ (ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของศรีบูรพา) คือการตั้งคำถามกับปัจจุบันอย่างกล้าหาญ คือการปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อสภาวะที่เป็นอยู่ ถ้าศรีบูรพายังมีชีวิตคงจะไม่ใช่แค่เขียนบทความ แต่ท่านจะตั้งคำถามกับ New Normal ตั้งคำถามกับโครงสร้างอำนาจ และท้าทายให้เรามองไปข้างหน้าเพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่า” ด้วยการเป็นคนหนุ่มสาวทางความคิด (Young Today) คือการไม่หยุดตั้งคำถามกับชีวิต และใช้สติปัญญาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความจริงและความเป็นธรรม เฉกเช่นที่ศรีบูรพาได้ทำมาตลอดชีวิต
กษิดิศ อนันทนาธร: จากนวนิยายเล่มแรก ‘สงครามชีวิต’ สู่นักเขียนผู้เป็นแรงบันดาลใจ
ในมุมมองของนักวิชาการและกรรมการสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงอย่างคุณกษิดิศ ภาพของศรีบูรพาไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นนักประพันธ์ แต่คือภาพของนักสู้ผู้แน่วแน่ในอุดมการณ์ ที่เติบโตมากับวรรณกรรมของศรีบูรพาและนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง เช่น การแจกเป็นของที่ระลึกในงานรับปริญญาและงานแต่งงาน
“หนังสือเล่มแรกของศรีบูรพาที่ผมอ่านคือ ‘สงครามชีวิต’ ทำให้ผมตกหลุมรักการใช้ภาษาและประทับใจงานเขียนของท่านมาตั้งแต่นั้น หนังสือเล่มนี้สะท้อนให้เราเห็นว่าแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด มนุษย์ก็ยังคงต้องรักษาความเป็นตัวเองและคุณค่าที่ยึดถือไว้ อีกเล่มที่ผมชอบคือ ‘จนกว่าเราจะพบกันอีก’ ซึ่งสะท้อนปรัชญาชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง ว่าทุกสิ่งล้วนไม่จีรังและคุณค่าของความสัมพันธ์อยู่ที่ความเข้าใจและยอมรับในสิ่งเหล่านั้น”
เขายังกล่าวชื่นชมถึงความทุ่มเทในการแสวงหาความรู้และการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เพื่อขยายขอบเขตความคิดและนำความรู้มาใช้ในการพัฒนาสังคม “ศรีบูรพาคือต้นแบบของนักอ่านที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้ และใช้ความรู้ที่ได้มาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความกระหายในการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุดของศรีบูรพา
จรูญพร ปรปักษ์ประลัย: เสน่ห์ในงานของศรีบูรพาคือ ‘ความตรงไปตรงมา’ ในการสื่อสาร
นักเขียนบทและนักวิจารณ์วรรณกรรมผู้มองเห็นรายละเอียดในงานเขียน ชี้ให้เห็นถึงกลวิธีที่ทำให้งานของศรีบูรพายังคงตรึงใจนักอ่านข้ามยุคสมัย “เสน่ห์ในงานของศรีบูรพาที่หลายคนอาจมองข้ามคือ ‘ความตรงไปตรงมา’ ในการสื่อสารกับคนอ่าน ท่านไม่ประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำจนเข้าไม่ถึง แต่ใช้ภาษาที่เรียบง่ายและสวยงามทว่าทรงพลัง เพื่อบอกเล่าความจริงที่ซับซ้อนของชีวิตและสังคมได้อย่างลุ่มลึก ทำให้คนธรรมดาๆ อย่างเราสามารถเชื่อมโยงและเข้าใจอุดมการณ์อันสูงส่งของท่านได้ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ท่านยังคง ‘Young’ อยู่ในใจนักอ่านเสมอ”
งานเสวนา “120 ปี ศรีบูรพา Young Today” ชวนให้ระลึกถึงผลงานอันทรงคุณค่าของศรีบูรพา ตลอดจนการใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับอุดมการณ์ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นหลังได้อย่างสง่างาม บทเรียนจากศรีบูรพาจึงไม่ใช่แค่วรรณกรรม แต่เป็นบทเรียนของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ยึดมั่นในอุดมการณ์ และความกล้าหาญที่จะยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ การนำวรรคทองจากวรรณกรรมชั้นเยี่ยมของศรีบูรพา มาถ่ายทอดลงบน ‘กระเป๋าผ้าศรีบูรพา’ รังสรรค์โดย PASAYA เปรียบเสมือนการชุบชีวิตให้วรรณกรรมชั้นครูยังคงความคลาสสิค และเป็นส่วนหนึ่งในฉากชีวิตประจำวันของผู้คน เพื่อให้ผลงานของศรีบูรพายังคงส่องทางให้แก่นักอ่านและนักคิดในทุกยุคสมัย
——————————————————————————————————————————–
เกี่ยวกับ ‘กระเป๋าผ้าศรีบูรพา’
Woven Art Bag กระเป๋าผ้าทอรุ่นพิเศษนี้จัดทำขึ้นเพื่อรำลึกครบรอบ 120 ปีศรีบูรพา และระดมทุนสนับสนุนโครงการ ‘ยังศรีบูรพา’ โดยรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปใช้ในกิจกรรมของโครงการ พร้อมคัดเลือกวลีอมตะจากวรรณกรรมของศรีบูรพานำมาถักทอลงบนกระเป๋าผ้า เพื่อรำลึกถึง “ความรัก ความกล้าหาญ และความงามของจิตวิญญาณมนุษย์” ได้แก่
กระเป๋าศรีบูรพา” ขนาด M (33 x 31 x 15 ซม.) ราคา 1,400 บาท รายได้ส่วนหนึ่งจำนวน 680 บาทต่อใบ จะถูกนำไปสนับสนุนโครงการ ‘ยังศรีบูรพา’ (Young Sriburapha) เริ่มจำหน่ายวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ที่ร้าน PASAYA ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ของ PASAYA ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/PASAYA.shop
ข่าว Lek..Yotita โอดี้NEWS รายงาน
ก.ค. 18, 2025 0
ก.ค. 18, 2025 0
ก.ค. 18, 2025 0
ก.ค. 18, 2025 0
ก.ค. 18, 2025 0
ก.ค. 18, 2025 0
ก.ค. 18, 2025 0
ก.ค. 18, 2025 0