โอดี้ NEWS ข่าวส่งเสริมสังคม – สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงมหาดไทย และจังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างประเทศ แผนงาน IMT-GT ระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งที่ 19 (CMGF) มุ่งสู่ความสำเร็จในการขับเคลื่อนแผนงาน IMT-GT โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้นำของทั้ง 3 ประเทศ ที่จะเป็นผู้ประสานและผลักดันให้โครงการต่าง ๆ มีความก้าวหน้า ผ่านการประสานกับองค์กรการเงินระหว่างประเทศให้นำเงินมาลงทุนในโครงการต่าง ๆเพื่อให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในอนุภูมิภาคนี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงมหาดไทย และจังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างประเทศ แผนงาน IMT-GT ระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งที่ 19 (CMGF) มุ่งสู่ความสำเร็จในการขับเคลื่อนแผนงาน IMT-GT โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้นำของทั้ง 3 ประเทศ ที่จะเป็นผู้ประสานและผลักดันให้โครงการต่าง ๆ มีความก้าวหน้า ผ่านการประสานกับองค์กรการเงินระหว่างประเทศให้นำเงินมาลงทุนในโครงการต่าง ๆเพื่อให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในอนุภูมิภาคนี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ก.ย. 15, 2022 admin ข่าวสังคม 0

วันนี้ 15 กันยายน 2565 ที่ โรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย(Governor of Phuket,Kingdom of Thailand.) พร้อมด้วย นายอันซาร อะห์หมัด Governor of Riau Island,Republic of Indonesia. ประเทศอินโดเซีย และ นาย มูหัมหมัด อานีซัม บิน อับดุล เราะห์มาน Kelantan State Executive Council,Malaysia.ร่วมเป็นประธานเปิดการประชุมระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งที่ 19 (CMGF) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “วันนี้เป็นการประชุมที่สำคัญของตัวแทนมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่สำคัญตามแนวระเบียงเศรษฐกิจของ IMT-GT โดยเป็นเวทีให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้แลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อแสวงหาแนวทางความร่วมมือในโครงการใหม่ๆที่ถูกนำเสนอ พร้อมทั้งมีแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อนำเสนอในเวทีรัฐมนตรีของทั้ง3 ประเทศในวันพรุ่งนี้ ( 16 กันยายน 2565) ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมานับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับอนุภูมิภาคของ 3 ประเทศเนื่องจากผลกระทบที่ยืดเยื้อจากวิกฤตโควิด-19 ประเทศไทยร่วมกับเพื่อนสมาชิกจากอินโดนีเชียและมาเลเชียเห็นพ้องต้องกันในการสนับสนุนความพยายามของประเทศสมาชิกในการบรรเทาผลกระทบของโรคโควิด-19 และเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของตนและอนุภูมิภาค สำหรับในอนุภูมิภาค IMT-GT ที่ผ่านมา ได้ร่วมขับเคลื่อน แผนดำเนินงานระยะห้าปี โดยหลายโครงการที่มีความคืบหน้าและมีความสำคัญ สามารถเชื่อมโยงกับแผนงาน IMT-GTอาทิ โครงการศูนย์กระจายสินค้าภาคใต้ – ทุ่งสง, โครงการอุทยานธรณีสตูล (SatunGeopark) ที่ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างอุทยานธรณีโลกลังกาวี(มาเลเซีย) อุทยานธรณีโลกสตูล (ไทย) และอุทยานธรณีโลกทะเลสาบโตบา (อินโดนีเซีย)นอกจากนี้เราได้ริเริ่มโครงการ Green City เพราะเชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนเรื่อง Green Cityจะทำให้อนุภูมิภาค IMT-GT นี้เติบโตอย่างยั่งยืนได้แท้จริง สำหรับประเทศไทยได้ดำเนินงานในเรื่อง Green Transport ในพื้นที่จังหวัดกระบี่และภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งแผนงานที่ช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนเมืองสีเขียวให้มีความครอบคลุมและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ แผนงานของ IMT-GT ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาสามมิติ ได้แก่ เศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการพัฒนาอนุภูมิภาค IMT-GT ควรคำนึงถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งควรดำเนินการควบคู่ไปกับการส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนในอนุภูมิภาค การพัฒนาแรงงานท้องถิ่น และการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนของสมาชิก สำหรับแนวทางที่สำคัญและจุดเด่นในการพัฒนาอนุภูมิภาค IMT-GT หากคำนึงถึงทรัพยากรทางธรรมชาติควรเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวในแนวระเบียงเศรษฐกิจชายฝั่งอันดามัน เป็นหนึ่งแนวทางการพัฒนาที่มีความเป็นไปได้และมีศักยภาพและสามารถเชื่อมโยงพื้นที่ได้ ทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งพวกเราควรใช้โอกาสจากการที่เรามีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามระดับโลกและทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลายในพื้นที่นี้ เราควรเน้นการผลักดันให้เกิดโครงการ Cruise Tourism โดยเร็วควบคู่กับการเร่งรัดการสร้างท่าเรือสำราญ ซึ่งประเทศไทยมีความโดดเด่นทางด้านการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเมืองเก่าหรือเส้นทางสายเพอรานากันในกลุ่มอันดามันเส้นทางภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล ลังกาวี ตลอดจนถึงปีนัง เป็นศักยภาพหนึ่งที่โดดเด่นที่อาศัยความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมร่วมกันในประเทศกลุ่ม IMT-GTซึ่งหากทั้งสามประเทศดำเนินการผลักดันร่วมกันก็จะทำให้เกิดเส้นทางการท่องเที่ยวที่สามารถพัฒนาการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านการตลาดทางการท่องเที่ยวร่วมกันทั้ง3 ประเทศได้ ในฐานะจุดหมายการท่องเที่ยวเดียวกัน (A Single Destination) ทั้งนี้ คณะทำงานสาขาท่องเที่ยวมีแผนงานยกระดับการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญภายในอนุภูมิภาค IMT-GT ภายใต้เส้นทางจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต พังงา เชื่อมไปยังรัฐเคดาห์ มาเลเซีย และจังหวัดอาเจะห์ เมืองซาบัง สาธารณรัฐอินโดนีเชีย รวมไปถึงการเชื่อมต่อทางบกและอากาศ ซึ่งเคยมีข้อเสนอจากจังหวัดอาเจะห์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เสนอให้มีการเตรียมเปิดเส้นทางบิน ซาบัง – ภูเก็ต – กระบี่ – ลังกาวี และเส้นทางเดินเรือซาบัง – ภูเก็ต – ลังกาวี ที่คาดว่าจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและทำให้เกิดการกระจายรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภายหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงและยังช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน โดยปัจจัยแห่งความสำเร็จในการขับเคลื่อนแนวระเบียงเศรษฐกิจของ IMT-GT จะต้องได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่องจากทุกภาคี ทั้งฝ่ายเลขานุการระดับชาติ คณะทำงานทุกยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้นำของทั้ง 3 ประเทศ ที่จะเป็นผู้ประสานและผลักดันให้โครงการต่าง ๆ มีความก้าวหน้า ผ่านการประสานกับองค์กรการเงินระหว่างประเทศให้นำเงินมาลงทุนในโครงการต่าง ๆเพื่อให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในอนุภูมิภาคนี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง #โอดี้NEWSรายงาน#โอดี้FMมีเดียประเทศไทย